ประเภทเครื่องมือการจัดการจำแนกตามแนวคิดและระดับการวิเคราะห์ | |||||
แนวคิดการจัดทฤษฎีองค์การตามแนวคิดของสก๊อตต์ (Scott, 2003) ได้จัดประเภทเครื่องมือการจัดการเป็น 4 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจำแนกตามระดับ | |||||
ของการวิเคราะห์ (Level of Analysis) หรือระดับการใช้งานแบ่งได้เป็น 3 ระดับ คือระดับองค์การ (Organization) ระดับกลุ่ม (Group) และระดับ | |||||
เจกบุคคล (Individual) ดังนี้ | |||||
1) แนวคิดการจัดการแบบเหตุผลนิยมระบบปิด เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1900-1930 แนวคิดการจัดการแบบเหตุผลนิยมระบบปิดที่สำคัญ คือ แนวคิดการจัดการแบบวิทยาศาสตร์(Scientific Management) ซึ่งเป็นการจัดการที่อาศัยข้อเท็จจริง รวมถึงการเคลื่อนไหวร่างกายให้น้อยที่สุด โดยใช้เวลาน้อยที่สุด เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ยังรวมถึงทฤษฎีการบริหาร (Administrative Theories) ซึ่งเน้นหน้าที่ของผู้บริหารหรือการบริหาร และทฤษฎีระบบราชการ (Bureaucracy) ที่เน้นลักษณะโครงสร้างองค์การที่มีการแบ่งงานกันทำ มีการกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบ มีกฎระเบียบ ไม่นำความสัมพันธ์ส่วนตัวมาใช้เน้นความเป็นเลิศในด้านการทำงาน แนวคิดทั้งสามนี้เป็นพื้นฐานขององค์การแบบเครื่องจักร ซึ่งให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพในการทำงาน และการควบคุม ซึ่งแนวคิดนี้ถูกวิจารณ์ว่าละเลยการให้ความสำคัญของมนุษย์ (Organization without Man) | |||||
2) แนวคิดการจัดการแบบมนุษยนิยมระบบปิด แนวคิดนี้ได้พัฒนาต่อเนื่องจากยุคแรก คือเกิดขึ้นในทศวรรษที่ 1930 โดยทฤษฎีการจัดการได้ปรับเปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับมนุษย์มากขึ้น โดยเริ่มจากการทดลองที่ฮอร์ทอร์น (Hawthrone Studies) ซึ่งทำให้มีการสนใจเรื่องอารมณ์ความรู้สึกและทัศนคติของคนมากขึ้นว่ามีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพของงานอย่างไร แนวคิดสำคัญที่เกิดขึ้นในยุคนี้ ได้แก่ แนวคิดมนุษยสัมพันธ์ (Human Relations) แนวคิดทรัพยากรมนุษย์(Human Resources) ซึ่งรวมถึงทฤษฎีแรงจูงใจต่างๆ ทฤษฎี X ทฤษฎี Y แนวคิดทรัพยากรมนุษย์จัดเป็นการวิเคราะห์ทั้งในระดับกลุ่มและระดับบุคคล ส่วนแนวคิดมนุษยสัมพันธ์จัดอยู่ในระดับบุคคล(Scott, 2003) | |||||
3) แนวคิดการจัดการแบบเหตุผลนิยมระบบเปิด แนวคิดการจัดการแบบนี้เกิดขึ้นหลังแนวคิดเรื่องมนุษยสัมพันธ์ คือราวช่วงทศวรรษที่ 1950 โดยมีแนวคิดว่าเทคนิคด้านคณิตศาสตร์สามารถช่วยปรับปรุงการตัดสินใจและการแก้ปัญหาได้ ดังนั้นจึงมีการนำเทคนิคด้านคณิตศาสตร์มาใช้แก้ปัญหาทางการบริการ เช่น เทคนิคในการพยากรณ์ (Mathematical Forecasting) ตัวแบบคณิตศาสตร์เพื่อใช้ในการควบคุมสินค้าคงคลัง (Inventory Modeling) การสร้างแบบจำลอง(Simulation) เป็นการสร้างตัวแบบปัญหาซึ่งมีวิธีการแก้ไขในหลาย ๆ วิธีภายใต้ฐานคติที่ต่างกันนอกจากนี้ยังมีการตัดสินใจโดยใช้หลักเกณฑ์ทางเศรษฐศาสตร์ เช่น ต้นทุน รายรับ ผลตอบแทนต่อการลงทุน ในยุคนี้จึงจัดได้ว่ามีการนำการจัดการเชิงปริมาณ (Quantitative Approach to Management) มาใช้นอกจากนี้ในช่วงประมาณ 1960 ได้มีการตระหนักว่าไม่มีทฤษฎีหรือวิธีการใดที่สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกสถานการณ์ ดังนั้นแนวคิดของการจัดการแบบนี้ คือ การคิดอย่างเป็นระบบ (Systems Thinking) ระบบเปิด (Open Systems) การคิดตามสถานการณ์ (Contingency Thinking) แนวคิดนี้ยังครอบคลุมถึงเครื่องมือการจัดการอื่น ๆ ด้วยที่มีแนวคิดสอดคล้องกัน เช่น การวางแผนกลยุทธ์ รีเอ็นจิเนียริ่ง ต้นทุนกิจกรรม กรอบงบประมาณรายจ่ายล่วงหน้าระยะปานกลาง(Medium-Term Expenditure Framework-MTEF) การวิเคราะห์มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ (EconomicValue-Added Analysis-EVA) และการจัดการทางอิเล็กทรอนิกส์ และเมื่อพิจารณาระดับการวิเคราะห์แล้วพบว่าการนำการคำนวณเชิงปริมาณมาใช้ในการบริหาร การวางแผนกลยุทธ์ การจัดการตามสถานการณ์ รีเอ็นจิเนียริ่ง MTEF และ EVA เป็นเครื่องมือที่มีระดับการวิเคราะห์ในระดับองค์การ ส่วนการวิเคราะห์ต้นทุนกิจกรรมและการจัดหาทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นการวิเคราะห์ระดับกลุ่ม | |||||
4) แนวคิดการจัดการแบบมนุษยนิยมระบบเปิด ในยุคนี้มีการผสมผสานแนวคิดที่ให้ความสำคัญกับมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ในยุคนี้มีการจัดการใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย อาทิ Balanced Scorecard, Learning Organization, Knowledge Management, TQM, PMQA, Core Competencies เครื่องมือการจัดการตามแนวคิดนี้มีการวิเคราะห์ทั้งสามระดับ กล่าวคือเครื่องมือการจัดการที่ใช้ในระดับองค์การ ได้แก่ Learning Organization, Knowledge-based Organization,TQM, BSC, PMQA, CRM, Six Sigma, Supply Chain Management ส่วนเครื่องมือการจัดการที่ใช้ในระดับกลุ่ม ได้แก่ BSC, Core Competencies, Organization Learning ส่วนเครื่องมือการจัดการที่ใช้ในระดับบุคคล ได้แก่ BSC, Core Competencies, Organization Learning, Knowledge Management และ e-Learning | |||||
เครื่องมือการจัดการตามแนวคิดการจัดทฤษฎีองค์การตามแนวคิดของสก๊อตต์ (Scott, 2003) | |||||
ระดับการวิเคราะห์ | เหตุผลนิยมแบบปิด | มนุษยนิยมแบบปิด | เหตุผลนิยมแบบเปิด | มนุษยนิยมแบบเปิด | |
องค์การ (Organization) | - Administrative Theory | - Contingency Management | - BSC | ||
- Bureaucracy | - EVA | - Core Competency | |||
- 5ส | - MTEF | - CRM | |||
- Quantitative Approach | - KM | ||||
- Strategic Planning | - LO | ||||
- PMQA | |||||
- SCM | |||||
- TQM | |||||
- Six Sigma | |||||
กลุ่ม (Group ) | - School of Human Resources | - Activity-based costing | - BSC | ||
- E-Procurement | - Core Competency | ||||
- E-Learning | |||||
- KM | |||||
- OL | |||||
ปัจเจกบุคคล (Individual) | - Scientific Management | - School of Human Resources | - BSC | ||
- School of Human Resources Relations | - Core Competency | ||||
- Motivation Theories | - E-Learning | ||||
- Theory X and Theory Y | - KM | ||||
- OL | |||||
ขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงองค์กร (Organizational Change) 3 ขั้นตอน คือ | |||||
1. การละลายพฤติกรรมเดิม (Unfreezing) | |||||
2. การเปลี่ยนแปลง (Change) | |||||
3. การทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน (Refreezing) | |||||
การตัดสินใจนำเครื่องมือการจัดการมาใช้ ผ่านกระบวนการจัดการความรู้ 4 ขั้นตอน คือ | |||||
1. การสร้างความรู้ | |||||
2. การประมวลความรู้ | |||||
3. การประยุกต์ใช้ความรู้ | |||||
4. การเผยแพร่ความรู้มาใช้ | |||||
แผนภูมิแสดงขั้นตอนการนำเครื่องมือทางการบริหารเพื่อพัฒนาองค์การที่ยั่งยืน | |||||
ข้อเสนอแนะในการพัฒนาองค์การ | |||||
(1) ความรู้ความเข้าใจของทีมงาน | |||||
1.1. ผู้บริหารเป็นแกนหลักในการผลักดันการนำเครื่องมือการจัดการมาใช้ และสร้างความเข้าใจที่ตรงกันของทีม | |||||
1.2. หากลุ่มแกนนำเพื่อช่วยการติดต่อสื่อสารระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายปฏิบัติเป็นไปด้วยดี | |||||
1.3. องค์การภาครัฐควรมีทีมงานหรือกลุ่มที่ช่วยผลักดันทีมงานให้เกิดองค์ความรู้ | |||||
(2) บทบาทผู้บริหาร ผู้บริหารจะมีบทบาทในการสร้างและประยุกต์ความรู้ | |||||
2.1.ส่งเสริมให้ผู้บริหารระดับต่าง ๆ ได้ศึกษาอบรมหลักสูตรใหม่ๆและสามารถชักจูงผลักดันให้มีการใช้เครื่องมือการจัดการได้อย่างมีกลยุทธ์ | |||||
2.2. ผู้บริหารเข้าใจและแสดงบทบาทของตนเองในการกระตุ้นส่งเสริมให้มีการนำเครื่องมือการจัดการมาใช้ในองค์การ | |||||
(3) ความสอดคล้องของเครื่องมือการจัดการกับกลยุทธ์ | |||||
3.1. คำนึงถึงความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์หรือกลยุทธ์ขององค์การ | |||||
3.2. การเปลี่ยนแปลงยิ่งเร็วมากเพียงใด ก็จำเป็นต้องสื่อสารมากขึ้นเท่านั้น | |||||
3.3. การเลือกใช้กลยุทธ์ที่สอดคล้องกับสภาพการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจของโลก | |||||
(4) วัฒนธรรมองค์การ การนำเครื่องมือการจัดการมาใช้จะต้องคำนึงถึง | |||||
4.1. ความสมดุลของวัฒนธรรมองค์กร (หากต้องการคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นอยู่ต้องนำเครื่องมือที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กรมาใช้) | |||||
4.2. ผู้นำในการนำเครื่องมือการจัดการมาใช้และการสร้างความร่วมมือของทีม | |||||
4.3. ธรรมาภิบาล | |||||
ข้อมูลสถิติการใช้เครื่องมือการบริหารของประเทศไทยปี 2549 | |||||
เครื่องมือการวัดด้านต่าง ๆ จาก Thailand Quality Awards | |||||
เครื่องมือการวัดที่เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาองค์กรให้ได้รับรางวัลคุณภาพแห่งชาติ | http://www.tqa.or.th/th/node/340 | ||||
1. ISO (International Organization for Standardization) | |||||
2. HA (Hospital Accreditation) | |||||
3. BSC (Balanced Scorecard) | |||||
4. KM (Knowledge Management) | |||||
5. Benchmarking | |||||
6. TQM (Total Quality Management) | |||||
7. TPM (Total Productive Maintenance) | |||||
8. 6 Sigma | |||||
9. GMP (Good Manufacturing Practice) | |||||
10. KPI (Key Performance Indicator) | |||||
11. COQ (Cost of Quality) | |||||
ข้อมูลที่น่าสนใจ | |||||
http://www.tqa.or.th/th/node/1545 | |||||
http://www.tqa.or.th/th/node/1548 | |||||
http://www.tqa.or.th/th/node/724 | |||||
Blog สำหรับนักศึกษารป.ม.มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี เพื่อศึกษาเพิ่มเติมจากห้องเรียนและผู้ที่สนใจทั่วไป
4.14.2555
เครื่องมือทางการบริหารสู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
รูปภาพประกอบ Load ได้ไม่ครบ นักศึกษาสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ Sky Drive Flle Excel ชื่อเดียวกันนะคะ
ตอบลบ